ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บุหรี่ไฟฟ้าได้กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นไทย จนก่อให้เกิดความกังวลด้านสุขภาพและสังคมอย่างกว้างขวาง บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษที่สามารถสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ผลกระทบทางสุขภาพที่ร้ายแรง
บุหรี่ไฟฟ้าอาจดูทันสมัยและปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่แท้จริงแล้ว บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษหลากชนิด เช่น นิโคติน โพรพิลีนไกลคอล และสารเคมีที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำความร้อนจนเกิดเป็นไอ สารเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อการทำลายปอด หัวใจ และระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายของผู้ใช้งาน
ในกลุ่มวัยรุ่น บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาทส่วนกลาง นิโคตินเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเสพติดในระดับสูง ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบต่อการเรียน ความจำ และการพัฒนาสมองในเยาวชนที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ นอกจากนี้ การสูบไอที่มีสารเคมี ยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และโรคเรื้อรังอื่นๆ
ความกังวลทางสังคม
ปัญหาที่สะท้อนชัดในสังคมคือ เยาวชนจำนวนมากมองบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องแสดงตัวตนหรือแฟชั่น การเข้าถึงที่ง่าย ทั้งจากการตลาดทางออนไลน์และชุมชน ทำให้เกิดการใช้งานในวงกว้างโดยขาดความตระหนักรู้ถึงผลกระทบ อีกทั้ง การแพร่หลายของบุหรี่ไฟฟ้าทำให้ผู้ปกครองและครูมีความยากลำบากในการป้องกันและให้ความรู้ที่ถูกต้อง
ความจำเป็นของการควบคุมอย่างเข้มงวด
การออกกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงเพื่อหยุดการแพร่กระจายในกลุ่มเยาวชน แต่ยังช่วยลดต้นตอของปัญหาสุขภาพในระดับชาติ รัฐบาลควรยกระดับการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การห้ามจำหน่ายให้เยาวชน การควบคุมการตลาด และการประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้ จำเป็นต้องสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ องค์กรสาธารณสุข และชุมชนเพื่อพัฒนากิจกรรมให้ความรู้เชิงรุกในโรงเรียนและพื้นที่สาธารณะ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและส่งเสริมให้เยาวชนเลือกพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยป้องกันปัญหาในระยะยาว
การจัดการผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้าให้ได้ผลจำเป็นต้องพึ่งพาความพยายามร่วมกันของทุกภาคส่วน เสียงสะท้อนจากประชาชนและการทำงานที่ต่อเนื่องของภาครัฐจะทำให้สังคมไทยสามารถปกป้องเยาวชนจากอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างยั่งยืน